Action Learning เครื่องมือพัฒนาศักยภาพของบุคคล ทีม และ องค์กร
ผู้เขียน มีโอกาสได้เข้าไปช่วยองค์กรหนึ่ง พัฒนาบุคลากร ว่าที่ ระดับผู้จัดการฝ่าย หรือ เรียก ศัพท์สวยหน่อย ก็คือ Successor นั่นเอง ในการพัฒนากลุ่มคนนี้ มีเครื่องมือหลายอย่างที่สำคัญ และ บริษัท เอนริชพีเพิล โพเทนเชี่ยล จำกัด ได้รับความไว้วางใจ ให้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาศักยภาพ ของบุคลากรกลุ่มนี้ จำนวน 7 ท่าน
ด้วยความใส่ใจของผู้บริหาร ให้ความสำคัญ กระบวนการพัฒนาจึงเป็นแบบผสมผสานวิธีการพัฒนาหลายวิธี อาทิ เช่น การประเมินสมรรถนะ แบบเฉพาะเจาะจงให้เหมาะสมกับองค์กร ซึ่งสร้างเครื่องมือการประเมินจากการสัมภาษณ์บุคคล 3 กลุ่ม ได้แก่ ผู้บริหารระดับสูงสุด ผู้อำนวยการฝ่ายคนปัจจุบัน และผู้เข้าร่วมโครงการ จากนั้นจึงใช้วิธีประเมินแบบ 180 องศา ทุกคนจะได้รับรายงานการประเมินอย่างละเอียด และ ทำการเลือกจุดแข็ง จุดที่ควรพัฒนา สำคัญ ออกมา 3 สมรรถนะ
กระบวนการถัดมา คือ ผู้เข้าร่วมโครงการจะได้รับการโค้ชแบบตัวต่อตัว จากโค้ชมาตรฐาน ICF ระดับ PCC เพื่อให้ทราบว่าการพัฒนาตามสมรรถนะที่เลือกมานั้น จะต้องกลับไปดำเนินการอย่างไรต่อไป
ทุกคนมีแผนการพัฒนาตนเอง ครบทั้งสามรูปแบบ 70:20:10 ซึ่งองค์กรได้จัดเตรียมโปรแกรมรองรับในการพัฒนาอย่างเต็มที่
หลังจากนั้น มาถึงกระบวนการหลัก นั่นก็คือ การใช้ Action Learning เป็นเครื่องมือในการพัฒนาศักยภาพผู้บริหารว่าที่ ระดับผู้อำนวยการฝ่าย ทุกคนจะได้เข้าร่วมกระบวนการกลุ่ม โดยแบ่งออกเป็น 2 ระยะ เพื่อพัฒนาทักษะการสื่อสาร การวิเคราะห์ปัญหา การแก้ไขปัญหาที่สาเหตุแท้จริง
- ระยะที่ 1 ผู้เข้าร่วมฯ แต่ละท่าน เป็นเจ้าของปัญหา หรือ Problem Sponsor (PP) ในวิถีที่ดีที่สุดคือ สมาชิกทุกคนควรจะได้รับประสบการณ์ เป็น PP เพื่อให้กลุ่มได้เรียนรู้การฝึกทักษะ การฟัง การจับประเด็น การถาม เพื่อนำไปสู่การเข้าใจปัญหา หาสาเหตุที่แท้จริง ก่อนที่จะลงมือหาวิธีแก้ไข ทั้งนี้ ในกระบวนการกลุ่มประมาณ 90 นาที สมาชิก จะมีกฎพื้น ข้อแรกคือ พูดเพื่อถามคำถาม และตอบคำถามเท่านั้น
คงไม่ต้องสงสัยว่า ใน session แรก ๆ แต่ละคนจะอึดอัดคับข้องใจขนาดไหน โดยเฉพาะจะทำตามใจตัวเองไม่ได้ เนื่องด้วยกฎพื้นข้อที่ 2 คือ โค้ชสามารถแทรกแซงในขณะที่กลุ่มกำลังคุยกัน หากเห็นว่ามีประเด็นที่กลุ่มจะต้องเรียนรู้
- ระยะที่ 2 คราวนี้ ทุกคนร่วมกันแก้ไขปัญหาขององค์กร โดยรับโจทย์จาก CEO แบบนี้ทำให้การทำกิจกรรมกลุ่มเป็นประโยชน์ต่อการทำงานข้ามสายงาน ซึ่งทำทั้งหมดรวม 4 ครั้ง เป็นกระบวนการห่างกัน 3-4 สัปดาห์ ด้วยคำว่า Action Learning คือ เรียนรู้ ลงมือปฏิบัติ และเรียนรู้จากการปฏิบัติ นำกลับมาเล่าสู่กันฟังในครั้งต่อไป ทำให้เกิดความต่อเนื่องในการเรียนรู้ พัฒนา นำไปใช้จริง เรียนรู้ และกลับมาพัฒนาต่อยอด
เสน่ห์ของ Action Learning ก็คือ การเรียนรู้คู่กับการปฏิบัติ และ ในขณะอยู่ใน session ทุกคนจะต้องเลือก Competency หรือ สมรรถนะ ที่ตนต้องการพัฒนาความเป็นผู้นำ ตามแผนพัฒนารายบุคคล หรือ Individual Development Plan เรียกว่าใน 1 ครั้งที่ทำกิจกรรม Action Learning จะได้คุณค่า ประโยชน์หลายประการในคราวเดียว ยิงปืนทีเดียว ได้นกหลายตัว
คุณค่าสำคัญ ที่ผู้เขียนประจักษ์แจ้งแก่ใจ นับตั้งแต่เข้ามาเรียนรู้เป็นโค้ชของ WIAL Action Learning (CALC) ก็คือ ทีมได้ความสัมพันธ์ สนิทสนมกัน นำพาไปสู่การพูดคุยอย่างเปิดใจ ช่วยเหลือ สนับสนุนกัน อีกทั้งยังได้เรียนรู้วิธีการแสดงออกของสมรรถนะต่าง ๆ ที่ตนเองเลือก และเรียนรู้จากการแสดงออกของเพื่อนอีกด้วย ที่สำคัญที่สุดคือ การได้แก้ไขปัญหาของตนเอง และขององค์กร ที่มาจากกระบวนการค้นหาสาเหตุของปัญหาที่แท้จริง ก่อนที่จะทำการแก้ไข
หากท่านใด ได้อ่านบทความนี้ และต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อ โค้ชส้ม หรือ ปรีดิ์ฤทัย เหล่าพูนพัฒน์ ได้ทาง email coach.citrus@gmail.com หรือ โทร 0614161451 ยินดีที่จะแบ่งปันประสบการณ์ เรียนรู้ แลกเปลี่ยน เพื่อพัฒนาองค์กรไทยไปด้วยกันค่ะ
